เทคนิคการเพิ่มความสามารถในการจำ 1.Chunking โดยการจัดเป็นหมวดย่อยไม่เกินความสามารถของความทรงจำระยะสั้น (7+-2) เช่น การจำเลขโทรศัพท์สิบหลักก็แบ่งย่อยออกเป็นกลุ่มย่อยสามกลุ่ม กลุ่มละไม่เกินสามสี่ตัวเลข (081-234-5678) แทนที่จะเป็น 0812345678 2.Visual เราจะสังเกตได้ดีว่าเราสามารถ "จำสิ่งที่เห็น" ได้ดีกว่า "จำสิ่งที่ได้ยิน" ในเด็กที่เรียนหนังสือเก่งและมีความจำดี มักจะมีเทคนิคในการจดจำด้วยวิธีนี้ ตัวอย่างของกรณีนี้ที่เห็นได้ชัดคือหลายครั้งที่เราสามารถขับรถไปยังบ้านเพื่อนได้ถูก แต่อธิบายไม่ถูกว่าต้องเลี้ยวตรงไหน แยกไหน จนกว่าเราจะเจอแยกนั้นด้วยตาตัวเองก่อน 3.Visual + Hearing นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ตอนเด็กๆ เราถูกครูจับให้ลุกขึ้นยืนอ่านหนังสือด้วยเสียงอันดังในห้องเรียน เพราะจะทำให้เราได้เห็นพร้อมกับได้ยิน 4.Repeat เป็นกระบวนการที่เราคุ้นเคยกันดี โดยการพยายามทำซ้ำๆ อ่านซ้ำๆ ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ 5.Sleeping นอนให้พอ ในการศึกษาพบว่าสมองส่วน hippocampus จะยังคงทำงานระหว่างเรานอนหลับ เชื่อกันว่ามันกำลังรวบรวมและบีบอัดความทรงจำในแต่ละวันที่ผ่านมาให้แน่นขึ้นไปอีก เราจะเห็นว่าคนที่อดนอนจะมีประสิทธิภาพในการจำน้อยลง 6.Stimulation การมีสิ่งเร้าบางสิ่งมากระตุ้นในเหตุการณ์บางอย่าง ไม่จำเป็นต้องส่งผลเสียต่อความสามารถในการพยายามจำเสมอไป ตัวอย่างที่ได้ยินบ่อยๆ เช่น บางครั้งในวิชาเรียนบางอย่างที่เราถูกดุต่อหน้าเพื่อนร่วมห้อง หรือมีคนทำให้เราอับอายต่อหน้าฝูงชน เราจะจำเหตุการณ์และรายละเอียดบางอย่างได้ดีเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมีการนำเทคนิคนี้มาใช้ในกระบวนการพัฒนาความทรงจำด้วย สร้างความต่อเนื่องของสิ่งที่จะจำ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการจดจำพยัญชนะไทยในรูปของประโยค เช่น ไก่จิกเด็กตายบนปากโอ่ง เป็นเทคนิคการตัดข้อกำจัดเรื่อง 7 +-2 ออกไป การสร้างความหมายของสิ่งที่เห็น ตัวอย่างที่เห็นบ่อยๆ คือ การจำเบอร์โทรศัพท์ด้วยการเปลี่ยนตัวเลขเป็นพยัญชนะ เช่น 227796673 เปลี่ยนเป็น Barrymore (ลองสังเกตที่แป้นโทรศัพท์ดู) 7.Meditation หรือการฝึกสมาธิ สิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสยังคงเป็น "อกาลิโก" คือถูกต้องไม่จำกัดกาลเวลา ทรงสอนให้อยู่กับปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้เรามีสมาธิและสามารถจดจำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดี การดูแลและละเว้นพฤติกรรมทำลายสมองพร้อมหมั่นบริหารสมองบ่อยๆ จะช่วยพัฒนาความทรงจำ และบันทึกความทรงจำให้อยู่กับเราไปได้นานเท่านาน
